1 กุมภาพันธ์ 2558

ฮอร์ครักซ์ (Horcrux)

หนึ่งในวัตถุศาสตร์มืดที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุด เรื่องราว และข้อมูลเกี่ยวกับฮอร์ครักซ์นั้น มีเก็บไว้ในห้องสมุด ของโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ซึ่งปัจจุบันหนังสือเล่มดังกล่าว สันนิษฐานว่า ถูกนำกลับไปเก็บรักษาไว้ในฮอกวอตส์ หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ได้เรียกมันมาจากห้องพักอาจารย์ใหญ่ ของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ --

ภายในหนังสือ ความลับของศาสตร์มืดที่สุด ระบุวิธีสร้างฮอร์ครักซ์โดยละเอียด หนังสือระบุว่า การฉีกวิญญาณออกไป วิญญาณที่เหลืออยู่จะไม่มั่นคงเลย แต่นั่นหมายถึงการทำฮอร์ครักซ์แค่อันเดียว ขณะเดียวกัน ชิ้นส่วนวิญญาณที่ถูกแยกออกไป ก็สามารถนำกลับมารวมกันได้ แต่มันเจ็บปวดรวดร้าวสุดที่จะทนทาน นั่นคือ "ต้องสำนึกผิด" ซึ่งระบุการวมชิ้นส่วนวิญญาณนี้ไว้ในเชิงอรรถของหนังสือ

"เธอต้องรู้สึกถึงสิ่งที่เธอทำลงไปจริงๆ แล้วความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็อาจจะทำลายเธอได้เลย แต่ฉันว่าโวลเดอมอร์คงไม่พยายามทำหรอก หรือเธอว่าไง"
-- เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ (เครื่องรางยมทูต น.104)

ฮอร์ครักซ์ นับเป็นวัตถุเวทมนตร์ที่สร้างความเสียหายให้ทั้งกับผู้สร้าง และผู้ครอบครองมัน เนื่องจากภายในฮอร์ครักซ์นั่น คือ ชิ้นส่วนวิญญาณที่ถูกแยก แบ่ง ฉีกออกจากร่างกาย เพื่อให้เกิดเป็นอมตะ

ผู้ที่คิดค้นฮอร์ครักซ์ขึ้นคนแรกคือพ่อมดศาสตร์มืดนามว่า 'เฮอร์โปผู้ชั่วร้าย' (Herpo the Foul) และเป็นคนแรกที่ค้นพบการให้กำเนิดบาซิลิสก์ และเป็นคนแรกที่พูดภาษาพาร์เซลได้

ในการสร้างฮอร์ครักซ์ขึ้นมา 1 ชิ้นได้นั้น ต้องผ่านขั้นตอนมากมาย

ผู้ที่จะสร้างฮอร์ครักซ์ขึ้นมาหนึ่งชิ้นนั้น จำต้องแลกมาด้วยการทำลายล้างชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง ทั้งนี้อาจเป็นไปเพื่อ แสดงอำนาจให้ฮอร์ครักซ์เห็นถึงอำนาจด้านมืด เมื่อพ่อมดแม่มดคนใด แยกชิ้นส่วนวิญญาณของตนเอง ออกมาแล้วนั้น จำต้องหาที่อาศัยให้แก่วิญญาณ ที่ถูกแยกออกมา

ที่อยู่อาศัยของชิ้นส่วนวิญญาณนั้น สามารถสร้างขึ้นได้ในทุกสถานะ ไม่ว่าจะเป็น สิ่งที่มีชีวิต หรือไม่มีชีวิต จะเป็นสิ่งของ สัตว์ รูปปั้น ไม้กายสิทธิ์ หรืออะไรก็ตามแต่ ทั้งนี้ที่อยู่ของวิญญาณนี้ จะถูกเรียกในชื่อ "ฮอร์ครักซ์"

รอน: "ทำไมวิญญาณส่วนนั้นมันไม่ออกมา แล้วก็ย้ายไปอยู่ในของอย่างอื่นแทนล่ะ"
เฮอร์ไมโอนี่: "เพราะว่าฮอร์ครักซ์ตรงกันข้ามกับมนุษย์โดสิ้นเชิงน่ะสิ ฟังนะรอน ถ้าฉันจับดาบขึ้นมาตอนนี้ แล้วใช้ดาบฟันเธอ ฉันจะไม่ทำอันตรายวิญญาณเธอเลยสักนิด"
รอน: "ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจมาก ฉันแน่ใจ"
เฮอร์ไมโอนี่: "เธอก็ควรรู้สึกแบบนั้นจริงๆ นั่นแหละ! แต่ที่ฉันต้องการบอกก็คือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับร่างกายของเธอ วิญญาณของเธอจะรอดอยู่ได้ ไม่ถูกแตะต้อง แต่สำหรับฮอร์ครักซ์มันสลับกันเลย เสี้ยวของวิญญาณที่อยู่ข้างในจะต้องพึ่งพาสิ่งที่บรรจุมันไว้ หรือร่างมนตราของมัน ถือจะรอดอยู่ได้ มันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฮอร์ครักซ์"
-- แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต น.105

ดังนั้น ฮอร์ครักซ์ จึงหมายถึง ที่กักเก็บชิ้นส่วนวิญญาณ ที่ผ่านการแบ่งแยกแล้ว พ่อมดศาสตร์มืดจะต้องเสกเวทมนตร์ที่มีอำนาจลงไปบนฮอร์ครักซ์ เพื่อปกป้องฮอร์ครักซ์ให้ปลอดภัย ฮอร์ครักซ์จะทรงพลังอานุภาพอย่างมาก และมันจะปกป้องวิญญาณที่อยู่ภายใน จากการถูกทำลาย จากหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เครื่องรางยมทูต กล่าวไว้ว่า

หลังจากที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ เปิดล็อกเกตสลิธีริน ซึ่งเป็นฮอร์ครักซ์ของลอร์ด โวลเดอมอร์ เพื่อที่จะให้รอน วิสลีย์ เพื่อนสนิทนั้น ได้ทำลายมันด้วยดาบของก็อดริก กริฟฟินดอร์ แต่ด้วยพลังอำนาจในการต่อต้านการทำลายชิ้นส่วนวิญญาณ วิญญาณภายในจะแสดงอำนาจด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้การทำลายสิ้นสุดลง ดังที่ ชิ้นส่วนของวิญญาณ โวลเดอมอร์ ทำปฏิกิริยากับรอน ด้วยการสร้างร่างของเฮอร์ไมโอนี่ และแฮร์รี่ขึ้นมา เพื่อหมายจะให้รอน ตกอยู่ในอำนาจการควบคุมของฮอร์ครักซ์

การทำลายฮอร์ครักซ์

จะต้องทำลายด้วยวัตถุเวทมนตร์ หรือคาถาใดก็ตามที่ทรงพลังอำนาจ เช่น การใช้ดาบของก็อดริก กริฟฟินดอร์ ที่ทรงพลังอานุภาพ เนื่องจากดาบจะซึมซับเอาพลังเข้าสู่ตัวดาบ เพื่อสร้างให้เกิดความทรงพลังในตัวของมันเอง ดังนั้นดาบจึงสามารถทำลายฮอร์ครักซ์ลงได้ และที่สำคัญผู้จะทำลายมั่น จะต้องมีสติ และไม่หลงไปกับสิ่งที่ชิ้นส่วนวิญญาณแสดงออกมา

ในการแยกชิ้นส่วนวิญญาณหนึ่งครั้ง จะต้องสูญเสียสิ่งหนึ่งไป จากความเป็นปกติธรรมชาติ ของผู้สร้างฮอร์ครักซ์ขึ้นมา ดังที่โวลเดอมอร์ สูญเสียใบหน้าที่หล่อเหลา หลังจากการแบ่งชิ้นส่วนวิญญาณออกถึง 7 ชิ้น ซึ่งจริงๆแล้วขีดจำกัดในการสร้างฮอร์ครักซ์ สามารถสร้างได้เพียง 1 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งนับได้ว่าสาหัสอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่ด้วยโวลเดอมอร์หลงใหลในอำนาจมืด และเลวทรามเกินกว่าใครที่ไหนจะเท่าเทียมได้

ผู้ครอบครองฮอร์ครักซ์ ถึง 7 ชิ้น คือลอร์ด โวลเดอมอร์ ซึ่งประกอบได้ด้วย ฮอร์ครักซ์ดังต่อไปนี้




สมุดบันทึกของทอม ริดเดิ้ล ถูกสร้างขึ้นในช่วงใบไม้ร่วง ปี 1943 หลังการฆาตกรรมเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญในห้องน้ำหญิง ปี 1942 โวลเดอมอร์ส่งมอบมันให้แก่ลูเซียส มัลฟอย เพื่อดูแลรักษามันไว้ ผู้ไม่รู้เลยว่าบันทึกนั้นมีความลับและมีความสำคัญเพียงไรต่อเจ้านายของตน เขารู้เพียงว่าโวลเดอมอร์มีแผนจะใช้บันทึกเล่มนี้เพื่อเปิดห้องแห่งความลับและจัดการกับเลือดสีโคลนในยุคที่จอมมารเรืองอำนาจ และลูเซียสเองก็มีแผนจะใช้บันทึกนี้เพื่อจัดการกับเลือดสีโคลน ด้วยความที่มันเป็นวัตถุศาสตร์มืดที่ทรงพลัง เขามีแผนที่จะใช้สิ่งนี้เล่นงานอาเธอร์ วีสลีย์ โทษฐานมีวัตถุศาสตร์มืดไว้ในครอบครอง เขาแอบมอบมันให้กับจินนี่ วีสลีย์ และทำให้เกิดความวุ่นวายมากมาย การเปิดห้องแห่งความลับ ปลดปล่อยบาซิลิสก์ ท้ายที่สุดแฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นผู้ใช้เขี้ยวของบาซิลิสก์ทำลายบันทึกของทอม ริดเดิ้ล และทำให้ฮอร์ครักซ์ชิ้นนี้ถูกทำลายลง




แหวนตระกูลเพฟเวอเรลล์ ซึ่งตกทอดมาถึงมาร์โวโล่ ก๊อนท์ (แหวนดังกล่าว คือหนึ่งในเครื่องรางยมทูต ที่ถูกเรียกในนาม หินชุบวิญญาณ) ถูกสร้างขึ้นทันทีหลังจากที่โวลเดอมอร์ จัดการและเปลี่ยนแปลงความทรงจำของก๊อนท์ และขโมยมันมา แหวนดังกล่าวนับเป็นแหวนประจำตระกูลก๊อนท์ หลังจากที่ตกทอดมาถึงเขา ผู้ทำลายฮอร์ครักซ์ชิ้นนี้ คือ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ โดยเขาได้ทำลายด้วยดาบของก็อดริก กริฟฟินดอร์ เช่นกัน แต่จากการสัมผัสกับมันครั้งแรก ทำให้อัลบัส ถึงกับเสียมือไปข้างหนึ่ง โดยอยู่ในสภาพที่ดำเกรียม ไม่สามารถใช้งานได้อีก (เจ้าชายเลือดผสม)




ล็อกเกตสลิธีริน ล็อกเกตดังกล่าวโวลเดอมอร์ได้ขโมยมาจากเฮ็ปซิบาห์ สมิท หลังจากที่สร้างความหลงใหลด้วยใบหน้าที่เหลาเหลาครั้งอดีต ทำให้เธอถึงกับตัดสินใจนำสมบัติล้ำค่านี้มาให้เขาดู และเป็นเหตุให้สมิทตายในที่สุด และหลังจากนั้นจอมมารได้ทำการปรับเปลี่ยนความทรงจำของเอลฟ์ประจำบ้าน ให้เป็นผู้สารภาพว่า ได้ข้านายของมันด้วยตนเอง มันถูกซ่อนอยู่ที่ถ้ำแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นถูกสับเปลี่ยนโดยเรกูลัส แบล็ก ร.อ.บ. (เสียชีวิตหลังจากสับเปลี่ยนล็อกเกตเป็นของปลอม เพื่อหมายจะทำลายมัน ด้วยความเกรงกลัวอำนาจของจอมมาร ครั้งยังเป็นหนึ่งในผู้เสพความตาย และมือขวาของโวลเดอมอร์) ผู้ร่วมมือกับเรกูลัสในครั้งนั้นคือ เอลฟ์ประจำบ้าน ครีเชอร์ ปัจจุบันกลายเป็นเอลฟ์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ และมันถูกทำลาย หลังจากที่แฮร์รี่พบดาบของก็อดริก กริฟฟินดอร์ ในบ่อลึกแห่งหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้น เขาเกือบเสียชีวิต หลังจากที่มันรัดคอเขาจนแทบหมดลมหายใจ ขณะที่ดำน้ำลงไปนำดาบของก็อดริก กิรฟฟินดอร์ขึ้นมา แต่รอน วิสลีย์ช่วยแฮร์รี่ พอตเตอร์ไว้ได้ทัน และรอนเป็นคนทำลายฮอร์ครักซ์ชิ้นนี้ด้วยตนเอง (เครื่องรางยมทูต)




ถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟ จอมมารขโมยมันมาจากเฮ้ปซิบาห์ สมิทเช่นเดียวกัน ถ้วยดังกล่าวถุกเก็บไว้ในการดูแลของเบลลาทริกซ์ เลสแตรงก์ ภายใต้ห้องนิรภัยของตระกูล แต่แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่สามารถขโมยมันมาจากธนาคารกริงกอตส์ได้ หลังจากนั้นมันถูกทำลายลงโดยฝีมือของเฮอร์ไมโอนี่เกรนเจอร์ หลังจากกลับไปในห้องแห่งความลับ ในฮอกวอตส์ โดยผู้เปิดห้องแห่งความลับคือ รอน วีสลีย์ เขาเลียนเสียงพาร์เซลเมาท์มาจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ มันถูกทำลายโดยเขี้ยวของงูบาซิลิสก์




รัดเกล้าของเรเวนคลอที่สาบสูญ (โรวีน่า เรเวนคลอ) รัดเกล้าของเรเวนคลอถูกขโมยไปจากโรวีน่า โดยลูกสาวของเขาเอง เฮเลน่า เรเวนคลอ ซึ่งปัจจุบันคือ ผีประจำบ้านเรเวนคลอ ที่รู้จักกันในชื่อของ สุภาพสตรีสีเทา เธอนำมันไปซ่อนในต้นไม้ในป่าในอับแบเนีย และหลังจากนั้นโวลเดอมอร์เป็นคนไปพบ และสร้างมันขึ้นเป็นฮอร์ครักซ์ หลังจากนั้นเขาย้ายมันไปซ่อนไว้ในห้องต้องประสงค์ สำหรับผู้ปรารถนาที่ซ่อนของดีๆ ซึ่งหลังจากนั้นถูกค้นพบ และทำลายโดยไฟอันทรงพลัง ที่แครบเป็นคนสร้างขึ้น มันเผาผลาญและมอดไหม้ไปทั้งห้อง และหลังจากนั้นแครบก็ตาย




งูนากินี หลังจากที่โวลเดอมอร์รู้ถึงอันตรายของฮอร์ครักซ์ที่เขาสร้าง จอมมารได้สร้างกรงมนตราขึ้นมาเพื่อคุ้มกันนากินี และพาติดตัวเขาเสมอตลอดเวลา และหลังจากนั้น มันถูกฆ่าด้วยฝีมือของเนวิลล์ ลองบัตท่อม โดยเขาใช้ดาบของก็อดริด กริฟฟินดอร์ ที่ดึงออกมาจากหมวกคัดสรร ตัดเอาศีรษะของงูขาดจากตัว ต่อหน้าต่อตาของโวลเดอมอร์




แฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กชายผู้รอดชีวิต กลายเป็นฮอร์ครักซ์หลังจากที่โวลเดอมอร์สร้างขึ้นโดยไม่ตั้งใจ หลังจากหมายจะฆ่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ คำสาปพิฆาตของเขาตีกลับและทำให้เขาสูญเสียร่างกายไปในตอนนั้น ฮอร์ครักซ์ชิ้นนี้ถูกทำลายด้วยเงื้อมมือของจอมมารเอง ในตอนที่พยายามฆ่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ในป่าต้องห้าม แฮร์รี่ พอตเตอร์ตายในตอนนั้น และฮอร์ครักซ์ก็ถูกทำลายลง แต่แฮร์รี่ พอตเตอร์ ด้วยมีเครื่องรางยมทูต จึงฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง

ลำดับ ข้อมูลการสร้างฮอร์ครักซ์ทั้ง 7

บันทึกของทอม ริดเดิ้ล
- เหยื่อ: เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ (1942)
- สร้าง: ฤดูใบไม้ร่วง ปี 1943
- ที่ซ่อน: ลูเซียส มัลฟอย
- ทำลายโดย: แฮร์รี่ พอตเตอร์ (ด้วยเขี้ยวบาซิลิสก์) 29 พฤษภาคม 1993

แหวนตระกูลเพฟเวอเรลล์
- เหยื่อ: ทอม ริดเดิ้ล (ผู้พ่อ)
- สร้าง: 1943
- ที่ซ่อน: บ้านตระกูลก๊อนท์
- ทำลายโดย: อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ช่วงเดือนกรกฎาคม 1996

รัดเกล้าของเรเวนคลอ
- เหยื่อ: ชาวนาในอัลแบเนีย
- สร้าง: ประมาณปี 1943
- ที่ซ่อน: ห้องต้องประสงค์
- ทำลายโดย: วินเซนต์ แครบ ในวันที่ 2 พฤษภาคม 1998

ถ้วยของเฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ
- เหยื่อ: เฮปซิบาห์ สมิท (1946)
- สร้าง: c.1946
- ที่ซ่อน: ตู้นิรภัยของเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์
- ทำลายโดย: เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ (ด้วยเขี้ยวบาซิลิสก์) ในวันที่ 2 พฤษภาคม 1998

ล็อกเกตของซัลลาซาร์ สลิธีริน
- เหยื่อ: มักเกิ้ลจรจัด
- สร้าง: c.1946
- ที่ซ่อน: ถ้ำที่ทอม ริดเดิ้ลสมัยเด็กเคยพาเพื่อนๆ ไป ก่อนจะถูกนำมาเก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 12 กริมโมลด์เพลซ
- ทำลายโดย: รอน วีสลีย์ (ด้วยดาบของกริฟฟินดอร์) ในวันที่ 28 ธันวาคม 1997

แผลเป็นของแฮร์รี่ พอตเตอร์
- เหยื่อ: แฮร์รี่ พอตเตอร์ (โดยบังเอิญ) และคาถาสะท้อนกลับทำให้จอมมารหายไป
- สร้าง: 1981
- ที่ซ่อน: - (ทั้งจอมมาร และแฮร์รี่ ไม่เคยรู้ว่าเป็นฮอร์ครักซ์ และมันเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ไม่ใช่การตั้งใจสร้าง)
- ทำลายโดย: โวลเดอมอร์ (ด้วยคำสาปพิฆาต) ในวันที่ 2 พฤษภาคม 1998

นากินี
- เหยื่อ: เบอร์ธา จอร์กิ้นส์
- สร้าง: 1994
- ที่ซ่อน: -ไม่ระบุ-
- ทำลายโดย: เนวิลล์ ลองบัตท่อม (ด้วยดาบของก็อดดริก กริฟฟินดอร์) ในวันที่ 2 พฤษภาคม 1998

22 มกราคม 2558

เหตุผล 5 ข้อ ที่แฮร์รี่ควรคู่กับจินนี่

หลายคนอาจจะคิดว่าแฮร์รี่นั้นไม่น่าคู่กับจินนี่เลยด้วยเหตุผลต่างๆนานา ว่าก็หน้าตาไม่สวยบ้าง ว่าจินนี่บทไม่เด่นบ้าง บางคนบอกน่าจะคู่กับเฮอร์ไมโอนี่หรือไม่ก็โช แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ.เค.โรวลิ่งได้ตั้งใจเขียนให้จินนี่เป็นนางเอกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว วันนี้ผมเลยนำเหตุผล 5 ข้อมา เพื่อบ่งบอกว่าจินนี่นั้นสมควรคู่กับแฮร์รี่อย่างไร

เเฮร์รี่ควรคู่กับจินนี่นั้นถูกต้องเเล้วเพราะ

1.  ตามหลักหรือทฤษฎีนิยายคลาสสิกหรือเรื่องราวประเภทฮีโร่ ผู้หญิงวัยไล่เลี่ยที่พระเอกเห็นเป็นคนเเรกมักจะเป็นนางเอก ตั้งเเต่โรมิโอ เเอนด์ จูเลียต spider man , bat man ยันขุนช้างขุนเเผน เฮอร์คิวลิส เเละอีกหลายๆเรื่องเเนวฮีโร่ เเฮร์รี่ก็เช่นกันเขาพบจินนี่เป็นคนเเรก (ไม่เชื่อเปิดไปดูเล่มหนึ่ง)ที่คิงครอส(นอกจากนี้อาจเป็นเพราะว่าพ่อกับเเม่ของเจเคเ
จอกันครั้งเเรกที่คิงครอสด้วย)

2. จินนี่มั่นคงต่อความรัก คิดดูดิชอบเเฮร์รี่ตั้งเเต่ปี 1เเล้วก็ยังคงชอบมาตลอด เเค่ลองหันไปคบคนอื่นดูบ้างตามคำเเนะนำของเฮอร์ไมนี่เเต่ จริงๆเเล้วยังคงชอบเเฮร์รีอยู่ ชอบคนๆนึงมาได้ 5 ปีเต็มอ่ะมันไม่ธรรมดาเลยนะครับ

3. ลักษณะนิสัยของจินนี่นั้นทำให้เธอเข้ากับเเฮร์รี่ได้ดีเพราะเธอเป็นคนเข้มเเข็ง กล้าหาญ ช่างพูดคุยเเละร่าเริง ในขณะที่เเฮร์รี่เป็นคนเคร่งขรึมเเต่กล้าหาญเช่นกัน จินนี่เป็นคนเข้มเเข็งมากเห็นได้จากหลายตอนเเต่จะขอยกตัวอย่างสำคัญๆ เช่น ในเล่ม ๒ตอนที่จินนี่ด่ามัลฟอยว่าอย่ามายุ่งกับเเฮร์รี่(คิดดูตอนนั้นจินนี่อายุเเค่สิบเอ็ด
นะ)
ps.หลายคนที่อ่านเเฮร์รี่อาจจะงงว่า ทำไมตอนจินนี่อยู่ปี1 2 3 เป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยพูด เเต่พอเริ่มปี5-6 ถึงได้กลายเป็นคนร่าเริ่ง เเจ่มใส เเข็งเเกร่งขึ้นมาได้ เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะตอนปีเเรกๆจินนี่ยังเด็กอยู่ทำให้เธออายหรือทำตัวไม่ถูกเมื่
ออยู่ต่อหน้าคนที่ตัวเองชอบซึ่งก็คือเเฮร์รี่ เเล้วอย่าลืมสิว่าหนังสือเนี้ยถูกเขียนโดยผ่านมุมมองของเเฮร์รี่เป็นหลัก ดังนั้นในช่วงเเรกจึงไม่เเปลกที่ทุกคนจะคิดว่าจินนี่เป็นคนขี้อาย ซึ่งจริงๆเเล้วไม่ใช่เช่นนั้นเลยต่อมาเมื่อจินนี่โตขึ้นเริ่มคุ้นเคยกับการที่มีเเฮร
์รี่อยู่ใกล้ๆจึงทำให้เธอทำตัวตามธรรมชาติไม่เขินอีกต่อไป

4. จินนี่เป็นคนเดียวที่เอาเเฮร์รี่อยู่ !!!!!!!
4.1 ไม่เชื่อเปิดไปดูเล่ม 5 ตอนอยู่ที่กริมโมเพลซ(เขียนถูกป่าวเนี่ย)

"ฉันไม่ได้ขอ-- ฉันไม่เคยต้องการ-- โวลเดอมอร์ฆ่าพ่อแม่ของฉันนะ" แฮร์รี่พูดละล่ำละลัก "ฉันมีชื่อเสียงเพราะเขาฆ่าครอบครัวของฉัน แต่ฆ่าฉันไม่ได้! ใครต้องการมีชื่อเสียงแบบนี้บ้าง พวกเขาไม่คิดหรือไงว่าฉันน่ะอยากให้เรื่องนี้ไม่เคยเกิด--"(ตอนนี้เเฮร์รี่กำลังโมโหอย่างเเรง)
"เรารู้ แฮร์รี่" จินนี่พูดอย่างหนักแน่น
เท่านั้นเเหละเเฮร์รี่เงียบเลย ในขณะที่ก่อนหน้านั้นตอนที่เฮอร์ไมนี่พูดปลอบอย่างละลำละลัก เเฮร์รี่ยังคงเดือดอยู่ เเต่พอจินนี่พูดเเฮร์รี่กลับหายเดือด เพราะจินนี่กล้าพูดออกมาอย่างหนักเเน่ (ตามนิสัยของเธอ เเละนี่ก็เเสดงให้เห็นด้วยว่าจินนี่ยังเเคร์เเฮร์รี่อยู่)

4.2 เล่ม6ตอนปู่ดัมตายเเฮร์รี่นั่งอยู่ข้างศพใครเรียกก็ไม่ยอมไป จนจินนี่มาจูงนั่นเเหล่ะถึงได้ลุกขึ้น

5. หลายคนอาจบอกว่าอะไรฟระ ไม่จิ๊ง ไม่จริงเเฮร์รี่ควรจะคู่
เฮอร์ไมโฮนี่หรือโชมากกว่า นั่นไม่มีทางเป็นไปได้เพราะ
เฮอร์ไมโอนี่ก่อนนะ เเฮร์รี่คู่กับเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้เพราะเฮอร์เอาเเฮร์รี่ไม่อยู่(กลับไปอ่าน4.1)เเละ ป้าโจบอกเเล้ว่าเฮอร์ต้องคู่กับรอน ที่สำคัญคือสองคนนี้คิดกันเเค่เพื่อนเเละเฮอร์ไม่เข้มเเข็งเท่าจินนี่
ส่วนโช ไม่เหมาะกับเเฮร์รี่เพราะ เธอมีนิสัยอ่อนไหว ไม่เป็นตัวของตัวเองซึ่งตรงกับข้ามกับจินนี่โดยสิ้นเชิง ที่สำคัญคือ ความรู้สึกที่เเฮร์รี่มีต่อโช เเชงนั้นไม่ใช่ความรักเเต่เป็นอาการตกหลุมรักของเด็กหนุ่ม สังเกตได้ว่าทุกครั้งที่เเฮร์รี่เจอโชเขาจะชมโชว่าน่ารักหรือสวยเสมอทั้งๆที่ยังไม่เ
คยรู้จักหรือพูดคุยกับโชมาก่อนเลยก็ชอบโชซะเเล้ว เเต่กับจินนี่นั้นความรู้สึกที่เขามีให้เป็นความรักเเท้ๆเพราะความรู้สึกนี้ค่อยๆก่อ
ตัวทีละน้อยๆหรือพัฒนามาเเบบค่อยเป็นค่อยไป เเต่กับโชนี้เป็นเเค่เรื่องหน้าตาเเละอารมณ์ชั่ววูบล้วนๆ เเต่กับจินนี่เเฮร์รี่ไม่เคยติดหรือชมเลยซักครั้งเลยว่าเธอสวย ชอบก็คือชอบไม่เกี่ยวกับหน้าตา

เป็นไงบ้างคับ สมเหตุสมผลไหม??
ใครมีเหตุผลอะไรมากกว่านี้บอกได้น่ะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก

www.Muggle-V.com/forums/index.php?showtopic=1341